Jan 5, 2023
ม.เกษมบัณฑิต เดินหน้า เคบียูสปอร์ต โพลหวังสร้างประโยชน์ พัฒนากีฬาไทย

มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต เดินหน้าจัดการสำรวจ ความความเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL เคบียูสปอร์ต โพล เพื่อหวังสร้างมุมมองดูที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากีฬาไทย
ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนแล้วก็พัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า ในโลกเดี๋ยวนี้ทุกชาติตื่นตัวแล้วก็ให้ความสำคัญกับการกีฬา มากขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับกีฬาสามารถ สร้างสุขภาพและสังคมที่ดีควบคู่ไปด้วย นอกจากนั้นกีฬายังเป็นยุทธศาสตร์ สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมภายใต้มูลค่าที่จับต้องได้

แล้วก็จากความสำคัญดังกล่าวมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา ที่มีนโยบายในการส่งเสริมรวมทั้งสนับสนุนกิจการ กีฬามาอย่างตลอด จึงจัดโครงการบริการทางวิชาการแก่สังคมด้วยการ จัดการสำรวจความนึกเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) ภายใต้การดำเนินการของศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี เผยอีกว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นหนึ่งในแผนงานที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

ตระหนักแล้วก็ให้ความสำคัญกับการสำหรับ การส่งเสริมการพัฒนา การกีฬาของประเทศ ภายใต้แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 และก็ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สำหรับการสำรวจความนึกเห็นดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและก็สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือแฟนกีฬาในการที่จะสะท้อนมุมมอง และเสนอแนะการพัฒนา รวมทั้งยกระดับการกีฬาของชาติตามประเด็นหรือหัวข้อที่กำหนด

ซึ่งจากการดำเนินการ ที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับจาก แฟนกีฬาเป็นอย่างมาก รวมทั้งนับว่าโพลดังกล่าวเป็นหนึ่ง ในการสร้างสีสันและก็ยกระดับการตื่นตัวให้กับสังคมกีฬาไทย ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง และเพื่อ ประโยชน์กับวงการกีฬาไทยมหาวิทยาลัยก็จะเดินหน้าผนึกพลังร่วมกับสังคมถัดไป

ดร.เสนีย์ กล่าวต่อไปว่า การสำรวจความคิดเห็นทางด้านการกีฬาผ่าน KBU SPORT POLL นั้นศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งจากการติดตามการสำรวจในแต่ละประเด็น ที่ระบุนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ ต่อวงการกีฬาในภาพรวมทั้งสิ้น และที่น่าสนใจ คือได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม ตัวอย่างหรือประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม ในแต่ละมิติมากขึ้นอย่างตลอดซึ่งผลหรือข้อมูล ที่ได้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ ต่อการรังสฤษฏ์และพัฒนาวงการกีฬาไทย ได้ในระดับหนึ่ง

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี

ด้าน ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของ KBU SPORT POLLนั้นเพื่อให้ใส่คล้องกับ ปรากฎการณ์ของสังคม กีฬาในแต่ละห้วงเวลาและก็เกิดเป็นประโยชน์ สูงสุดต่อสังคมโดยรวม คณะทำงานก็จะพิจารณาระบุประเด็นหรือหัวข้อที่จัดว่าตอบปัญหาแล้วก็กำลัง เป็นที่น่าสนใจของสังคมทั้งในมิติที่เกี่ยวกับ การพัฒนาหรือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับกีฬาไทยในภาพรวม

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เผยอีกว่า การดำเนินการสำรวจของ KBU SPORT POLLนั้นในระยะแรก คณะทำงานและเครือข่ายจะลงภาคสนาม เพื่อเข้าพบกลุ่มตัวอย่างโดยตรงแต่ด้วยปัจจุบันนี้สังคม เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสุดกำลังการดำเนินการก็ง่ายรวมทั้งสะดวก สามารถดำเนินการได้อีกทั้งภาคสนามรวมทั้งสื่อออนไลน์ผสมผสานกันไป อย่างไรก็ตามเพื่อผลการสำรวจใน แต่ละประเด็นไม่เสียเปล่าสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาได้ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ก็จะสรุปสาระสำคัญต่าง ๆ เสนอไปยังหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาเพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลสำหรับดำเนินการในมิติที่เกี่ยวข้องมาอย่างตลอดเหมือนกัน

เหนือสิ่งอื่นใด KBU SPORT POLL สำเร็จตามเป้าประสงค์และก็เดินมาถึงวันนี้ได้ นั้นในนามของมหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณประชาชนหรือกลุ่มตัวอย่างที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ แล้วก็อีกหนึ่งภาคส่วนที่นับได้ว่าเป็นพลังร่วมที่สำคัญยิ่งของความสำเร็จคือสื่อมวลชน ทุกแขนงที่มีส่วนร่วมกับการเผยแพร่ข่าวสารสารสู่สาธารณชนมาอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน ผอ.ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวทิ้งท้าย

“เคบียู สปอร์ตโพล” เปิดเผยผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจเชื่อ”ฟุตบอลทีมชาติไทย”มีลุ้นแชมป์ “ซีเกมส์”

ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ตโพล)

สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” เรื่อง “ช้างศึกไทยกับโอกาสและก็ความหวัง สำหรับการคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2021″ โดยได้ดำเนินการสำรวจผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 2-4 เดือนพฤษภาคม โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ที่สนใจข่าวสารซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,369 คน (ชาย 803 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 58.66 หญิง 566 คน คิดเป็นปริมาณร้อยละ 41.34) ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่าง ๆ มีดังนี้

ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน”ฟุตบอลทีมชาติไทย” กลุ่มตัวอย่างส่วนมาก จำนวนร้อยละ 81.01 สนใจ, รองลงมาจำนวนร้อยละ15.91 ยังไม่ตัดสินใจ รวมทั้ง จำนวนร้อยละ 3.08 ไม่สนใจ , สื่อหรือช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ ปริมาณร้อยละ 36.55 โซเชียลมีเดีย, รองลงมาจำนวนร้อยละ 34.19 วิทยุ-โทรทัศน์, ร้อยละ 18.97 หนังสือพิมพ์, ปริมาณร้อยละ 8.11 วิทยุกระจายเสียง และก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 2.18คำถามถึงโอกาส

และความหวังกับการคว้าแชมป์ จำนวนมาก จำนวนร้อยละ 35.15 มีโอกาสค่อนข้างมาก, รองลงมาร้อยละ 32.66 มีโอกาสมาก, จำนวนร้อยละ 17.06 ไม่แน่ใจ, ร้อยละ 8.11 มีโอกาสน้อย, จำนวนร้อยละ 5.39 มีโอกาสค่อนข้างน้อย รวมทั้งจำนวนร้อยละ 1.63 ไม่มีโอกาสเลย , ทีมคู่แข่งขันที่น่ากลัว ร้อยละ 38.02 เวียดนาม, รองลงมา ปริมาณร้อยละ 25.59 อินโดนีเซีย ร้อยละ 15.88, มาเลเซีย ปริมาณร้อยละ 12.10, สิงคโปร์ ร้อยละ 4.83, เมียนมา และก็อื่นๆร้อยละ 3.58

ด้านปัจจัยที่คาดว่า จะส่งผลต่อความสำเร็จ จำนวนมากปริมาณร้อยละ 31.21 สมรรถนะและความสามารถ ของนักกีฬา, รองลงมาจำนวนร้อยละ 26.87 ระยะเวลาในการจัดแจงทีม, จำนวนร้อยละ 22.60 สมรรถนะของผู้ฝึกสอน ปริมาณร้อยละ 11.49 ผู้จัดการทีมและผู้ส่งเสริมและสนับนุนเบื้องหลัง จำนวนร้อยละ 6.10 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา แล้วก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 1.73

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต

เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจ จะมองเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างจำนวนมากต่างให้ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน เพราะเหตุว่าฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์เป็น การแข่งขันแห่งศักดิ์ศรี ที่ทุกชาติต่างมุ่งหวังที่จะคว้าเหรียญทองทั้งสิ้น ประกอบกับการแข่งขันในครั้งที่แล้วทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ ในครั้งนี้จึงทำให้แฟนกีฬาตื่นตัวที่จะติดตามเกมมากเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า”ฟุตบอลทีมชาติไทย” จะประสบกับปัญหาในการตระเตรียมทีม และขาดผู้เล่น ร่วมทีมหลายรายก็ตาม แต่แฟนกีฬายังมั่นใจว่าทีม “ช้างศึก” มีโอกาสรวมทั้งความหวังค่อนข้างมาก กับการที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่แฟนบอลคาดหวัง ต่างมุ่งไปที่สมรรถนะหรือฝีเท้าของผู้เล่น รวมทั้งแม้พิจารณา ถึงทีมคู่แข่งจะมองเห็นได้ทีมเวียดนามในฐานะเจ้าบ้านและแชมป์เก่า เป็นทีมที่น่ากลัว

“ถ้าหากพิจารณาในรูปภาพรวม สำหรับการเข้าร่วม การแข่งขันของทีมชาติไทย ในรายการนี้ถ้าเกิดพิจารณาถึงความโด่งดัง เกียรติและก็ศักดิ์ศรีของประเทศแล้วมั่นใจว่าด้วยความมุ่งมั่นของผู้จัดการทีมคือ นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ภายใต้การผนึกพลังด้วยกันของทุกฝ่ายเชื่อว่าทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” คงจะคว้าแชมป์และสร้างความสุขให้กับแฟนกีฬา” ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กำหนด

More Details